เริ่มแรกเลย มีการนำเข้ากระต่ายขนยาว จากต่างประเทศ อย่าง English Angora ได้ถูกนำเข้ามาโดยฟาร์มเก่าๆ ในไทย แล้วนำมาผสมกับกระต่ายไทยค่ะ เพื่อลดต้นทุน และ พัฒนาให้เกิดกระต่ายพันธุ์ขนยาวขึ้น และพัฒนาต่อมาเรื่อยๆ ออกมาเป็นกระต่ายที่เราเห็นๆ กันอยู่นี้
ในระยะแรกสุด ได้มีกระต่ายพันธุ์ เจอรี่ วู๊ดดี้ ออกมาก่อน แต่ยังไม่ค่อยจะสวย เพราะที่ตัวขนยาว แต่ที่หน้าขนจะไม่ค่อยยาว จะมีกระต่ายหน้าตาแปลกๆหลุดฟอร์มออกมาขายเยอะ เพื่อนๆ หลายๆคนคงจะเคยเห็น ที่เป็นกระต่ายที่บางคนเรียกว่า เสื้อกั๊ก คือ กระต่ายที่ขนตรงหลังสั้น มีขนรอบๆยาวเป็นชายกระโปรง คือยาวไม่เสมอกันทั้งตัว คล้ายกระดองเต่า หรือที่มาตั้งชื่อกันเอง เพื่อให้ขายง่ายว่า กระต่ายเปอร์เซีย เกิดจากการผสมที่มีเชื้อกระต่ายไทยมากเกินไป
และก็ด้วยเหตุที่คนไทยชอบกระต่ายขนยาวๆ แต่ตัวเล็กๆ กระต่ายที่พัฒนาขึ้นรุ่นหลังๆ จะเน้นที่จุดนี้ จึงพัฒนาตามมาด้วยกระต่ายที่เล็กลง และขนยาวเสมอกันมากขึ้นคือ Teddy Bear ที่มีขนาดเล็กลง และ Woody Toy ซึ่งเล็กที่สุดในบรรดากระต่ายที่พัฒนาสายพันธุ์ขึ้นในไทย ตามลำดับ
** กระต่ายเหล่านี้ ที่พัฒนาสายพันธุ์กันขึ้นมา ไม่ว่าจะ Jerry Woody หรือ Teddy Bear หรือ Woody Toy ล้วนแต่ พัฒนาขึ้นในไทย และไม่ได้รับมาตรฐานใดๆ จาก ARBA และไม่ได้เป็นที่รู้จักในต่างประเทศ ดังที่ผู้ขายชอบกล่าวอ้างแต่อย่างใด
พิสูจน์ได้ง่ายๆ ด้วยการเอา ชื่อกระต่ายเหล่านี้ ไปค้นหาใน internet ก็ได้ค่ะ จะไม่พบในเว็บต่างประเทศ แม้แต่เว็บเดียว

กระต่ายไทย จะเป็นกระต่ายที่มีมานานแล้ว มีราคาถูก บางคนเรียกว่า กระต่ายพื้นเมือง ลักษณะขนจะสั้น และหน้าจะแหลม มีขนาดใหญ่ เมื่อเทียบกับกระต่ายที่จะกล่างถึงต่อไป
เจอรี่ วู๊ดดี้ (Jerry Woody)
ชื่อของเจอรี่ วู๊ดดี้ นั้นค่อนข้างสร้างความสับสนให้กับผู้เลี้ยง เป็นอันมาก เนื่องจากไปฟังแล้วคล้ายกับ Jerry Wooly (เจอรี่ วูลลี่) ของต่างประเทศ อันที่จริงแล้ว เป็นคนละพันธุ์กันค่ะ เจอรี่ วู๊ดดี้ จะลักษณะคล้ายกับ Teddy ค่ะ แต่ว่า ขนที่หน้าจะสั้นกว่าเล็กน้อย และขนาดเมื่อโตเต็มที่ ตัวจะใหญ่กว่า ปัจจุบันไม่ค่อยมีขายแล้วค่ะ ภาพข้างล่างเป็นภาพของเพื่อนๆ ทางบ้านค่ะ
Teddy Bear
Teddy หรือ Teddy Bear เป็นกระต่ายที่เป็นลูกผสมเช่นกัน และได้พัฒนาสายพันธุ์กันมาต่อจาก เจอรี่ วู๊ดดี้ จนค่อนข้างนิ่งในเมืองไทย กระต่ายพันธุ์นี้ จะนิยมเลี้ยงกันมาก เพราะว่า รูปร่างน่ารัก ตัวจะกลมฟู ขนจะฟูยาวประมาณ 4-5 นิ้ว และก็มีราคาไม่แพง เพาะพันธุ์ขึ้นจากฟาร์มในเมืองไทย ต่างประเทศไม่มี
วู๊ดดี้ ทอย (Woody Toy)
อ่านชื่อแล้วเพื่อนๆ อาจจะเกิดอาการมึน เล็กน้อย อันที่จริงแล้ว Woody Toy ชื่อฟังดูมีคำว่า วู๊ดดี้ เหมือนกัน ก็น่าจะคล้ายกับ เจอรี่ วู๊ดดี้ แต่ไม่ใช่ค่ะ กระต่ายพันธุ์วูดดี้ ทอย นี้จะคล้ายกับ Teddy Bear มากกว่า เพราะว่า พัฒนาสายพันธุ์ต่อจาก Teddy Bear โดยทำให้มีขนาดเล็กลงไปอีก มองแล้วคล้ายกับเอา Teddy Bear มาหดให้เล็กลง เพราะว่า หน้าตาคล้ายกับ Teddy Bear เลยค่ะ (แต่ไม่ได้มียีนส์แคระนะคะ เพราะหากมียีนส์แคระนั้น Woody Toy จะผสมกับ Woody Toy ไม่ได้ เพราะว่า จะเกิดลูกที่เป็น peanut ซึ่งเป็นปัญหาจากยีนส์ แคระ ที่เป็นยีนส์ด้อยมาเจอกัน แต่ปรากฏว่า Woody Toy ไม่ได้ให้ลูก peanut จึงไม่ใช่ กระต่ายแคระค่ะ เพียงแค่พัฒนาให้มีขนาดเล็กลงเท่านั้น)
ลักษณะ คือ หน้าตาจะเหมือน Teddy Bear เลย แต่หูจะสั้นกว่ามองเห็นคล้ายรูปสามเหลี่ยมด้านเท่า และเมื่อโตเต็มที่แล้วตัวจะเล็กกว่า Teddy Bear ค่ะ หากเอา Woody Toy และ Teddy Bear ที่โตเต็มที่มาเทียบกัน Woody Toy จะตัวเล็กกว่า เกือบครึ่งเลยทีเดียว
** หมายเหตุ กระต่ายที่ขนฟูเหล่านี้ การผสมพันธุ์ที่ค่อนข้างเปะปะ ตอนเล็กจะดูแยกกันออกยาก คนขายส่วนใหญ่ มักจะตั้งราคาโดยดูจากฟอร์ม กระต่าย หากกระต่ายขนฟูหน้าฟูมากๆ ในตอนเด็ก และหน้าไม่แหลม ก็จะขายในราคาที่สูงกว่า นอกเสียจากเราจะรู้ ว่าพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์เป็นพันธุ์อะไร เราจึงจะได้ลูกค่อนข้างที่เป็นตามนั้น ราคาส่วนใหญ่ จะอยู่ที่ 150-800 บาท ขึ้นกับความสวย การซื้อกระต่ายเหล่านี้ บางครั้งเลี้ยงๆไป อาจจะไม่สวยอย่างที่เราหวังไว้ก็มี ทั้งนี้จะเห็นฟอร์มว่าสวยหรือไม่ก็เมื่อประมาณ 2 เดือนขึ้นไป เวลาเลือกกระต่ายขนฟูเหล่านี้ ให้พยายามเลือกที่ หน้าทู่ ขนที่หน้าและตัวฟูให้มากที่สุด และหูสั้นๆ พยายามดูที่ฟอร์มสวยๆ ค่ะ คงจะพอช่วยได้บ้าง แต่ย้ำอีกที ว่ากระต่ายเด็กนั้นดูยากค่ะ ว่าเป็นพันธุ์อะไร